Global Machinery Trading Solution Provider

Smart Manufacturing

“ยุคโลกร้อนได้สิ้นสุดลงแล้ว และโลกกำลังเคลื่อนเข้าสู่ยุคโลกเดือดแทน” สุนทรพจน์ของ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส” เลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติ (UN) นั้นถือว่าไม่เกินจริง สังเกตได้จาก อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น ภัยธรรมชาติต่างๆ อันเป็นผลมาจากการกระทำของมนุษย์ที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศโลก ทำให้หลายประเทศทั่วโลกออกมาตรการต่างๆเพื่อลดมลพิษและใส่ใจสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น อย่างประเทศไทยเองก็มีความพยายามที่จะผลักดันนโยบาย Net Zero Emission ที่มุ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ภายในปี พ.ศ. 2593 และตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากภาคพลังงาน 30% ภาคขนส่ง 30% ภาคอาคาร 20% ภาคอุตสาหกรรม 20% และภาคเกษตร 20% ภายในปี พ.ศ. 2573 เหตุนี้เองทำให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการผลิตเริ่มหันมาใช้พลังงานทดแทน และเครื่องจักรที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน โดยมุ้งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน รวมถึงยกระดับคุณภาพของสินค้า โดยไม่กระทบกับสิ่งแวดล้อม นั่นจึงเป็นที่มาของหัวข้อ “Smart Manufacturing For a Greener Tomorrow” ซึ่งเกี่ยวกับเทคโนโลยีการผลิตอัจฉริยะ (Smart Manufacturing)

 

บทบาทของ Smart Manufacturing ในกระบวนการผลิตที่ยั่งยืน

Smart Manufacturing

การผลิตอัจฉริยะ (Smart Manufacturing) เป็นการผสมผสานเทคโนโลยีขั้นสูงและการวิเคราะห์ข้อมูลเข้ากับกระบวนการผลิต เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความยั่งยืน และคุณภาพของการผลิต โดยใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น การบำรุงรักษาเชิงพยากรณ์ (Predictive Maintenance) ซึ่งใช้เซ็นเซอร์และการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อลดเวลาหยุดทำงานของเครื่องจักร และระบบจัดการพลังงาน (Energy Management Systems) ที่ช่วยปรับปรุงการใช้พลังงานในโรงงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

นอกจากนี้ยังมีการนำระบบอัตโนมัติ (Automation) และเครื่องจักรประหยัดพลังงานเข้ามาใช้เพื่อลดการใช้ทรัพยากรและเพิ่มความแม่นยำในการผลิต ระบบเครื่องมืออัจฉริยะ (Smart Tooling Systems) ที่ช่วยในการผลิตที่มีคุณภาพและลดเศษวัสดุ รวมถึงการเชื่อมต่อและการรวมระบบต่าง ๆ ในโรงงานผ่านเครือข่าย IoT เพื่อการควบคุมและตรวจสอบกระบวนการผลิตแบบเรียลไทม์

โดยรวมแล้ว การผลิตอัจฉริยะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้อุตสาหกรรมการผลิตสามารถพัฒนาไปสู่ความยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้นในอนาคต

ความสำคัญของเครื่องจักรและเครื่องมือใน Smart Manufacturing

Smart Manufacturing with Machine and Tooling

ในภาคอุตสาหกรรมการผลิต การนำเครื่องจักรและเครื่องมือที่ทันสมัยมาใช้ ถือเป็นหัวใจสำคัญของการผลิตที่ยั่งยืนเลยก็ว่าได้ เพราะเทคโนโลยีต่างๆในเครื่องไม่ว่าจะเป็นการประหยัดพลังงาน เครื่องมืออัจฉริยะ หรือ เครื่องมือระบบอัตโนมัติ สิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวกำหนดถึงคุณภาพ ต้นทุน และผลผลิตที่ได้

เครื่องจักรประหยัดพลังงาน (Energy-Efficient Machines): การปรับเปลี่ยนเป็นเครื่องจักรประหยัดพลังงาน ช่วยลดการใช้ไฟฟ้า และลดต้นทุนการดำเนินงาน สอดคล้องกับแนวทางการใช้พลังงานหมุนเวียน

ระบบเครื่องมืออัจฉริยะ (Smart Tooling Systems): การผสานระบบเครื่องมืออัจฉริยะ ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการผลิต และลดเศษวัสดุ โดยใช้เทคโนโลยี IoT เพื่อติดตามและปรับกระบวนการผลิตแบบเรียลไทม์

เครื่องมือระบบอัตโนมัติ (Automation Tools): เครื่องมือระบบอัตโนมัติขั้นสูง ช่วยปรับกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพ ลดข้อผิดพลาดของมนุษย์ รักษาคุณภาพและความเร็วของการผลิตให้อยู่ในระดับคงที่

 

Smart Manufacturing และพลังงานทดแทน

Smart Manufacturing and Renewable Energy

พลังงานทดแทน คือ พลังงานที่ได้จากแหล่งธรรมชาติที่สามารถทดแทนได้เร็วกว่าการใช้  ซึ่งครอบคลุมพลังงานแสงอาทิตย์  พลังงานลม  พลังงานน้ำ  และพลังงานความร้อนใต้พิภพ

ผลประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม: ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมหาศาล และยังช่วยต่อสู้กับภาวะโลกเดือด รวมถึงปรับปรุงคุณภาพอากาศ

ความคุ้มค่า: แม้ว่าการเปลี่ยนไปใช้พลังงานทดแทนจะมีค่าใช้จ่ายในการติดตั้งเบื้องต้น แต่ในการลงทุนระยะยาวจะช่วยประหยัดเงินได้มากเลยทีเดียว เนื่องจากลดค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิง และค่าบำรุงรักษา

ความมั่นคงด้านพลังงาน: การใช้ทรัพยากรพลังทดแทนในท้องถิ่น จะช่วยลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงนำเข้า ส่งเสริมความมั่นคง และเสถียรภาพด้านพลังงาน

 

สิ่งที่ต้องคำนึงเมื่อใช้พลังงานทดแทนในโรงงาน

Smart Manufacturing and Renewable Energy

การเปลี่ยนรูปแบบการใช้พลังงานในโรงงานอุตสาหกรรมต้องอาศัยการวางแผนและการดำเนินการอย่างละเอียด โดยแบ่งออกเป็น 4 หัวข้อหลักๆดังนี้

การตรวจสอบพลังงาน (Energy Audits): การตรวจสอบพลังงานอย่างละเอียดจะช่วยชี้จุดที่เหมาะสมสำหรับการบูรณาการพลังงานหมุนเวียน ระบุโอกาสในการประหยัดพลังงานและเพิ่มประสิทธิภาพ

แผงโซลาร์เซลล์ (Solar Panels): การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาโรงงาน จะช่วยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในการผลิตไฟฟ้าและความร้อน วิธีนี้มีประสิทธิภาพโดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีแดดจัด

กังหันลม (Wind Turbines): กังหันลมเหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีสภาพลมแรง สามารถผลิตพลังงานได้อย่างมาก เหมาะสำหรับโรงงานขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่ว่าง

ระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage Systems): การนำระบบกักเก็บพลังงาน เช่น แบตเตอรี่ มาใช้ จะช่วยให้มั่นใจว่ามีพลังงานหมุนเวียนอย่างสม่ำเสมอ แม้ในช่วงที่ผลิตไฟฟ้าไม่ได้

 

กรณีศึกษา: ความสำเร็จในการบูรณาการพลังงานทดแทนในอุตสาหกรรม

1.โครงการติดตั้งโซลาร์เซลล์ของ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ

CPF solar cell

ซีพีเอฟ มีแผนลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน ผ่านโครงการติดตั้งโซลาร์เซลล์ในฟาร์มและโรงงานมากกว่า 180 แห่ง ทั่วประเทศไทย ภายในปี พ.ศ. 2566 คาดว่าจะผลิตไฟฟ้าได้ 65 เมกะวัตต์ ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 44,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี และประหยัดค่าไฟฟ้า 400 ล้านบาทต่อปี

แหล่งอ้างอิง: ซีพีเอฟรุกติดตั้งโซลาร์เซลล์ในฟาร์มและโรงงานมากกว่า 180 แห่งภายในปี 2566 มุ่งสู่ Net-Zero – (wearecp.com)

2.ระบบ Smart Water ของ นิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด (ระยอง)

Smart Water WHA Rayong

นิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ดประยุกต์ใช้เทคโนโลยี/นวัตกรรมในการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบสาธารณูปโภคของนิคมฯ โครงการที่ 1 การนำน้ำทิ้งภายหลังผ่านการบำบัดกลับมาผลิตใช้ผลิตน้ำอุตสาหกรรม (Water Reclamation) โดยใช้เทคโนโลยี Ultra Filtration (UF) และ Reverse Osmosis (RO) มีกำลังการผลิต 5,200 ลบ.ม./วัน ทั้งนี้ ระบบควบคุมการผลิตใช้ระบบ SCADA มาช่วยในการควบคุม ซึ่งช่วยให้นิคมฯ ลดการใช้น้ำดิบเพื่อการผลิตน้ำประปา และลดปริมาณน้ำทิ้งที่จะระบายออกสู่คลองสาธารณะ

แหล่งอ้างอิง: เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (ieat.go.th)

 

ร่วมก้าวสู่อนาคตที่ยั่งยืนไปกับ Yamazen Thailand

การนำพลังงานทดแทน และเทคโนโลยีการผลิตอัจฉริยะมาใช้ เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับอนาคตที่ยั่งยืนในภาคการผลิต  โดยการนำเอานวัตกรรมเหล่านี้มาใช้  ผู้ผลิตสามารถลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างมาก และยังได้รับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจอีกด้วย

ในช่วงเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ทาง Yamazen Thailand มีจัดงานสัมมนา Lamphun Private Show 2024 ภายใต้หัวข้อ “Smart Manufacturing for a Greener Tomorrow” ที่จังหวัด ลำพูน ในวันที่ 25 กรกฎาคม 2567 เวลา 09.00 – 16.00 น. ที่ Grand PA Hotel & Resort Lamphun หากคุณต้องการทางเลือกใหม่ๆในการผลิตชิ้นงาน ห้ามพลาดโอกาสนี้!

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับงาน Lamphun Private Show คลิก!

 

ให้ Yamazen Thailand เป็นส่วนหนึ่งในการรักษาสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนของคุณ

 

เราคือผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องมือและเครื่องจักรที่มีประสบการณ์กว่า 30 ปี ในแวดวงอุตสาหกรรม ให้ Yamazen Thailand ดูแลคุณ

 

อ่านบทความอื่นๆคลิก Article | Yamazen ( Thailand )

 

หากท่านใจเครื่องมือและเครื่องจักรอุตสาหกรรม สามารถติดต่อ Yamazen Thailand ได้ตามช่องทางด้านล่างนี้!