Global Machinery Trading Solution Provider

1. การผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในอุตสาหกรรมเครื่องจักร

การผลิตที่ยั่งยืนกลายเป็นความสำคัญหลักของอุตสาหกรรมเครื่องจักรในปี 2567 ผู้ผลิตเครื่องจักรกลกำลังพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น เครื่องจักรที่มีฉลาก “Green Machine” ซึ่งออกแบบมาเพื่อใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตัวอย่างเช่น Okuma ได้พัฒนาเครื่องจักรที่ใช้เทคโนโลยีการจัดการพลังงาน ช่วยลดการใช้พลังงานในการผลิตได้ถึง 30% เมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องจักรทั่วไป

2. ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ในอุตสาหกรรมเครื่องจักร

การนำระบบอัตโนติเข้ามาใช้ในกระบวนการผลิตกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นในปี 2567 เนื่องจากช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดต้นทุนแรงงาน ข้อมูลจาก Markets and Markets ระบุว่าตลาดเครื่องจักรกลทั่วโลกคาดว่าจะเติบโตจากมูลค่า 78.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2023 เป็น 137.43 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2030 โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 4.2% การใช้หุ่นยนต์อุตสาหกรรมกำลังถูกนำมาใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น การผลิตอาหารและเครื่องดื่ม การผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า โดยคาดว่าการใช้หุ่นยนต์ในกระบวนการผลิตจะช่วยลดต้นทุนการผลิตได้ถึง 20-30%

3. ความต้องการในตลาดอุตสาหกรรมเครื่องจักร

ตามข้อมูลจาก M Report ในเดือนมิถุนายน 2567 ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรกลในประเทศไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมียอดสั่งซื้อรวม 1.57 หมื่นล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 22.8% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในกลุ่มเครื่องจักรกลที่ใช้ในการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และรถยนต์ไฟฟ้า ในเดือนกรกฎาคม 2567 ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรกลจากญี่ปุ่นอยู่ที่ 35,703 ล้านเยน (243.08 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ลดลง 12.5% จากเดือนที่แล้ว และเป็นครั้งแรกที่ยอดคำสั่งซื้อลดลงในรอบสองเดือน หากเทียบเป็นรายปีพบว่าลดลง 9.3% ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 23 สำหรับรายอุตสาหกรรม เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมิถุนายน 2567 อุตสาหกรรมยานยนต์ลดลง 31.1%, อุตสาหกรรมเครื่องจักรลดลง 5.9%, อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และพรีซิชันเพิ่มขึ้น 31.4% และอุตสาหกรรมอากาศยาน เรือ และอุปกรณ์ขนส่งลดลง 49.7%

4. ความท้าทายในการลงทุนในอุตสาหกรรมเครื่องจักร

ประเทศไทยยังคงเผชิญกับความท้าทายในการพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก (MSMEs) ที่มีข้อจำกัดในการเข้าถึงเงินทุนและเทคโนโลยีที่ทันสมัย รายงานจากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ระบุว่า MSMEs ในประเทศไทยยังขาดเงินลงทุนจำนวนมากเพื่อซื้อเครื่องจักรอัตโนมัติมาทดแทนแรงงานและเพิ่มผลิตภาพ นอกจากนี้ การพัฒนาผลิตภาพของ MSMEs ยังมีความท้าทาย เนื่องจากความเหลื่อมล้ำระหว่างสถานประกอบการขนาดใหญ่และขนาดเล็ก โดยเฉพาะในด้านการลงทุนด้านนวัตกรรมและการวิจัยและพัฒนา ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเครื่องจักรไปข้างหน้า

สรุป

ในปี 2567 อุตสาหกรรมเครื่องจักรกลมุ่งเน้นไปที่การผลิตที่ยั่งยืน การใช้เทคโนโลยีอัตโนมัติ และการพัฒนาเครื่องจักรที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น การติดตามแนวโน้มและการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ตลาดจะเป็นสิ่งสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมนี้ไปข้างหน้าอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ ข้อมูลและสถิติที่นำเสนอในบทความนี้จึงมีความสำคัญในการช่วยให้ผู้ผลิตและนักลงทุนสามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้

 

ประเทศไทยมีเป้าหมายที่จะเป็นศูนย์กลางเครื่องจักรกลที่ทันสมัยในอาเซียน โดยมีการจัดงาน METALEX 2024 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-23 พฤศจิกายน 2567 ที่ BITEC กรุงเทพฯ งานนี้จะเป็นเวทีที่นำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ จากผู้ผลิตชั้นนำกว่า 3,000 แบรนด์จากทั่วโลก โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าชมมากกว่า 100,000 คนจากอุตสาหกรรมการผลิตโลหะ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในตลาดเครื่องจักรกลระดับโลก รัฐบาลไทยกำลังส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งรวมถึงการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและการเชื่อมต่อระหว่างเครื่องจักร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการผลิต